10 ความลับ ที่แปลกประหลาดของดวงจันทร์ ข้อมูล ณ วันที่ 09/19/2560 ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/
อันดับที่ 10 “ดวงจันทร์ไหว” (Moonquakes)
นาซ่า ได้กล่าวว่า การสั่นสะเทือนคล้ายแผ่นดินไหวนี้ มีผลทำให้ดวงจันทร์ดังเหมือนระฆัง แต่ก็ยังไม่สามารถหาสาเหตุของดวงจันทร์ไหวได้อย่างแน่ชัดเนื่องจาก ดวงจันทร์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกเหมือนโลกของเรา
อันดับที่ 9 โลกและดวงจันทร์ไม่ได้ถูกจัดเป็นดาวแฝด (Earth and moon aren’t a twin planet)
เนื่องจากดวงจันทร์มีขนาดใหญ่ดวงหนึ่งจึงไม่โคจรรอบโลกเลย แต่โลกและดวงจันทร์จะโคจรรอบกันและกันรอบ ๆ จุดระหว่างดาวทั้งสอง ซึ่งจุดนี้เรียกว่า แบรีเซนเตอร์ (barycenter) และที่เห็นเหมือนดวงจันทร์โคจรรอบโลกมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า แบรีเซนเตอร์(barycenter) ปัจจุบันอยู่ในเปลือกโลกของเรา ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวที่โลกและดวงจันทร์ไม่ได้ถูกจัดเป็นดาวแฝด และเป็นดาวเคราะห์และดาวเทียมแทน อย่างไรก็ตามอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
อันดับที่ 8 ขยะบนดวงจันทร์ (Moon Trash)
นาซ่า ส่งยานพร้อมมนุษย์อวกาศไปร่อนลงบนดวงจันทร์รวม 6 ครั้่ง ด้วยกัน ได้นำตัวอย่างหินดวงจันทร์และอื่นๆ กลับมายังโลก การจะนำยานขึ้นจากพื้นผิวดวงจันทร์ภายใต้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เป็นธรรมดาที่นักบินอวกาศจำเป็นต้อง "ทิ้ง" ข้าวของไม่จำเป็นบางอย่างเอาไว้บนดวงจันทร์นั้น เพื่อแลกกับการนำเอาตัวอย่างหิน ดิน และตัวอย่างที่เป็นแกนใต้ผิวพื้นจากดวงจันทร์กลับมายังโลก
อันดับที่ 7 ดวงจันทร์เป็นพื้นฝังศพ (The Moon Is A Burial Ground)
ยูจีน "จีน" ชูเมกเกอร์ (Eugene “Gene” Shoemaker) นักดาราศาสตร์และนักธรณีวิทยา เขาคิดค้นการวิจัยถึงวิธีการและเทคนิคต่างๆที่นักบินอวกาศอพอลโลใช้ในการวิจัยดวงจันทร์ เขาต้องการเป็นนักบินอวกาศ แต่ถูกปฏิเสธเนื่องจากปัญหาทางการแพทย์เล็กน้อย เป็นความผิดหวังที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา เขาฝันว่าสักวันจะไปดวงจันทร์ เมื่อเขาเสียชีวิต นาซ่า ได้เติมเต็มความฝันของเขาและส่งศพของเขาไปยังดวงจันทร์ในปีคศ. 1998 ศพของเขายังคงอยู่ที่นั่นกระจัดกระจายอยู่ท่ามกลางฝุ่นดวงจันทร์
อันดับที่ 6 ความผิดปกติบนดวงจันทร์ (Lunar Anomalies)
ภาพถ่ายหลายภาพแสดงสิ่งที่แปลกบนพื้นผิวของดวงจันทร์ ภาพเหล่านี้จะเป็นโครงสร้างสูงตระหง่านที่สูงอย่างน้อย 1.6 กิโลเมตร (1 ไมล์) มีแม้กระทั่งปราสาทขนาดใหญ่ที่สูงเหนือพื้นผิวของดวงจันทร์ ทั้งหมดนี้ดูเหมือนว่าจะแสดงถึง "สัญญาณแห่งชีวิต" และชี้ไปสู่อารยธรรมขั้นสูงที่อาศัยอยู่บนดวงจันทร์
อันดับที่ 5 ฝุ่นดวงจันทร์ (Moon Dust)
หนึ่งในอันตรายที่น่าแปลกใจที่สุดของดวงจันทร์คือฝุ่นดวงจันทร์ มีลักษณะหยาบมาก กลิ่นคล้ายดินปืน เกาะติดอยู่ทุกหนทุกแห่ง NASA ประสบปัญหามากมายที่เกิดจาก ฝุ่นดวงจันทร์ มันทำให้รองเท้าบู๊ตของนักบินอวกาศพังเกือบทั้งหมด มันเข้าไปในชุดอวกาศและก่อให้เกิด "ไข้ดวงจันทร์" (moon hay fever) ในนักบินอวกาศ การสูดดมสัมผัสกับสิ่งดังกล่าวเป็นเวลานานอาจทำให้แอร์ล็อคล้มเหลวและชุดอวกาศจะพังลงได้
อันดับที่ 4 ความยากลำบากด้วยแรงโน้มถ่วงต่ำ (Difficulties With Low Gravity)
แม้ว่าแรงโน้มถ่วงบนดวงจันทร์เป็นเพียง 1 ใน 6 ของโลกก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าการเคลื่อนที่บนพื้นผิวของมันจะเป็นเรื่องที่ง่าย ชุดอวกาศทำให้เดินงุ่มง่าม เท้าของนักบินอวกาศจมลงในฝุ่นดวงจันทร์ถึง 15 เซนติเมตร (6 นิ้ว) แม้ว่าจะมีแรงดึงดูดต่ำแต่ความเฉื่อยของคน (ความต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลง ในการเคลื่อนไหว) บนดวงจันทร์สูง ดังนั้นจึงยากที่จะเคลื่อนไหวเร็วหรือเปลี่ยนทิศทาง
อันดับที่ 3 จุดกำเนิดของดวงจันทร์ (The Moon’s Origin)
มี 4 หลักทฤษฎี เกี่ยวกับกำเนิดของดวงจันทร์
ทฤษฎีการแยกตัว (Fission Theory) ระบุว่าดวงจันทร์เคยเป็นส่วนหนึ่งของโลก แยกจากโลกในตอนเริ่มต้นของระบบสุริยจักรวาล
ทฤษฎีการจับ (Capture Theory) เสนอว่าดวงจันทร์เกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ในระบบสุริยจักรวาล และต่อมาถูกจับโดยสนามโน้มถ่วงของโลก
ทฤษฎีการรวมตัว (Condensation Theory) เสนอว่าดวงจันทร์และโลกเกิดแยกกันจากการรวมตัวกันของกลุ่มก๊าซในระบบสุริยจักรวาล โดยดวงจันทร์กำเนิดขึ้นในวงโคจรรอบโลก ทฤษฎีที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ
ทฤษฎีการชนด้วยวัตถุขนาดใหญ่ (The Giant Impactor Theory) เสนอว่าดาวเคราะห์ขนาดเท่าดาวอังคารชนโลกหลังจากกำเนิดระบบสุริยจักรวาล แล้วปล่อยวัตถุเศษเล็กเศษน้อยในที่สุดควบแน่นเข้าสู่ดวงจันทร์
อันดับที่ 2 ดวงจันทร์และการนอนหลับ (The Moon And Sleep)
วิทยาศาสตร์ยืนยันว่า มีโอกาสเป็นไปได้มากที่ดวงจันทร์อาจรบกวนการนอนหลับของเรา และการนอนหลับที่เลวร้ายที่สุดในตอนกลางคืนมักเกิดขึ้นในช่วงพระจันทร์เต็มดวง
อันดับที่ 1 เงาของดวงจันทร์ (Moon Shadows)
เงาของดวงจันทร์ มืดกว่าโลกเนื่องจากไม่มีชั้นบรรยากาศ แม้ว่าดวงอาทิตย์จะสว่างไสวอยู่บนท้องฟ้า เงาของดวงจันทร์ก่อให้เกิดความเสียหายกับภารกิจต่างๆของอพอลโล นักบินอวกาศพบว่างานบำรุงรักษาของพวกเขาทำได้ยากเพราะเงามือของตัวเองบดบังสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ ขณะที่บางครั้งนักบินอวกาศคิดว่าพวกเขากำลังลงจากที่สูงชันเนื่องจากเส้นทางที่เดินไปมีเงาที่ลึกเหมือนถ้ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น