10 สิ่งอันน่ามหัศจรรย์ ของสัตว์ที่เหนือกว่ามนุษย์
อันดับที่ 10 พละกำลังและความแข็งแรง
สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เช่น มดและด้วง มีความแข็งแรงมาก ซึ่งไม่ได้สัมพันธ์กับน้ำหนักหรือขนาดตัวของพวกมัน แต่สัมพันธ์กับพื้นที่หน้าตัดขวางของกล้ามเนื้อ ด้วงสามารถดึงวัตถุด้วยน้ำหนักของตัวเอง 1,141 ครั้ง เทียบกับมนุษย์ต้องมีความสามารถในการยกสิ่งของเกือบ 73,000 กิโลกรัม
อันดับที่ 9 ความเร็ว
คนที่วิ่งเร็วที่สุดมีความเร็วถึง 44.72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสือชีตาห์สามารถเพิ่มความเร็วโบลต์ได้ในเวลาเพียง 3 วินาทีนกที่บินเร็วที่สุดคือเหยี่ยวเพเรกรินสามารถบินด้วยความเร็ว 355 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นผลจากขนนกที่บาง ปีกแหลม และสรีระที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงความเร็วดังกล่าว
อันดับที่ 8 กำลังผลิต
เคยได้ยินคำว่า "ยุ่งเหมือนผึ้ง" ไหม ผึ้งบางตัวจะทำงานได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงและยังสามารถทำงานต่อได้ เช่น การระบายความร้อนรังด้วยปีกของพวกมัน มดเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สำคัญ สมาชิกทุกคนต้องมีบทบาท บางตัวปกป้องอาณานิคม บางตัวหาอาหารและบางตัวจะบุกและทำลายอาณานิคมมดอื่น ๆ ไม่เพียง แต่เป็นการทำงานหนักเท่านั้น แต่ยังยาวนานในขณะที่เรานอนเป็นเวลาหลายชั่วโมง มดนอนหลับเพียง 4-5 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น
อันดับที่ 7 การปรับตัว
มนุษย์เราได้ทำการปรับตัวที่น่าทึ่ง อย่างไรก็ตามการปรับตัวนี้ยังอาศัยเครื่องจักรและการก่อสร้าง สัตว์อื่น ๆ ถูกบังคับให้ปรับตัวโดยธรรมชาติ เช่น สัตว์ที่อาศัยในแอฟริกาใต้อดตายเนื่องจากไม่สามารถเอื้อมถึงอาหารได้ ในช่วงเวลายาวนานลำคอของมันงอกขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นยีราฟ
อันดับที่ 6 สายตา
สิ่งมีชีวิตบางชนิดจำเป็นต้องหาอาหารบนพื้นที่กว้างเพื่อความอยู่รอด เช่น นกอินทรี ต้องสามารถเห็นเหยื่อได้นานก่อนที่เหยื่อจะมองเห็นพวกมัน แม้แต่อินทรีที่สายตาสั้นที่สุดก็สามารถมองเห็นได้มากกว่ามนุษย์ถึง 4 เท่า นกอินทรีที่สายตาแหลมคนที่สุดสามารถมองเห็นได้มากกว่ามนุษย์ 8 เท่า คาดว่าสามารถเห็นกระต่ายได้ไกลถึง 5 กิโลเมตร
อันดับที่ 5 การได้ยิน
การได้ยินของค้างคาวมีประสิทธิภาพมากเป็นการชดเชยจากที่มันมีการมองเห็นที่ค่อนข้างแย่ มันเปล่งเสียงและได้ยินเสียงสะท้อนจากสิ่งขวางกั้นที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ทำให้มันสามารถบินในถ้ำมืดๆและหาเหยื่อในเวลากลางคืนได้
อันดับที่ 4 ความฉลาดเฉลียว
นกพิราบสื่อสาร สามารถเดินทางกว่า 1,770 กิโลเมตร และหาทางกลับบ้านโดยไม่มี GPS สามารถใช้โครงสร้างที่มีเหล็กในจะงอยปากเพื่อกำหนดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของพวกมัน เทียบความสัมพันธ์กับสนามแม่เหล็กของโลกได้ ช้างสามารถรับรู้เมื่อมีคนจะมาคุกคามมันด้วยกลิ่นของคนและสีเสื้อผ้าได้
อันดับที่ 3 การต่อสู้
กิ้งก่า หนามมีหนามสั้น ๆ อยู่รอบลำตัว เมื่อถูกคุกคามสามารถพองตัวขึ้นมาเพื่อให้หนามทิ่มแทงผู้รุกรานได้ รวมถึงการเปลี่ยนสีเพื่อพรางตัวกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อม สามารถพ่นเลือดออกจากตาเพื่อไล่ผู้รุกรานให้หนีไป สามารถพ่นได้มากถึง 54 ครั้ง ภายในเวลาไม่ถึง 2 นาที แม้จะดูว่าเสียเลือดไปเป็นจำนวนมาก แต่กิ้งก่าหนามจะไม่เป็นอะไรเลย
อันดับที่ 2 การสื่อสาร
เพลี้ยจักจั่น เขาจะดูดกินน้ำเลี้ยงของพืชและเปลี่ยนของเหลวนี้เป็นน้ำหวาน ตุ๊กแกสามารถขอน้ำหวานโดยการสั่นหัว ไม่นานหลังจากนั้นเพลี้ยจักจั่นเขาก็จะส่งน้ำหวานให้ มดติดต่อสื่อสารโดยใช้หนวดตรวจจับและแปลความจากฟีโรโมนของมดตัวอื่น
อันดับที่ 1 รูปร่าง
บลูซีซลัก เป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้น้ำทะเลลึก เป็นสัตว์จำพวกหอย ตัวของมันมีสีแตกต่างกัน ด้านหนึ่งสีเงินตรงกับลักษณะของพื้นผิวมหาสมุทร อีกด้านสีฟ้าเหมือนสีของน้ำทะเล แม้จะมีขนาดเล็กแต่พิษของมันนำไปสู่การเสียชีวิตได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น